เลม่อนเค้กสปันจ์ ไส้เลม่อนครีม วิปปิ้งครีมนุ่ม | Kanomcake Kitchen

เลม่อนเค้กคืออะไร? เค้กเลม่อนสปันจ์ ไส้เลม่อนครีม วิปครีมนุ่ม

เลม่อนเค้กเป็นหนึ่งในเมนูเค้กผลไม้ที่ทั้งหอม สดชื่น และขายดีในร้านกาแฟ หลายคนคุ้นกับเลม่อนทาร์ตหรือเค้กมะนาวราดซอส แต่ที่ Kanomcake Kitchen ใช้สไตล์ สปันจ์เค้กนุ่ม ๆ ใส่ไส้เลม่อนครีม เปรี้ยวหวานกำลังดี แล้วเทปิดด้วยวิปปิ้งครีมอ่อน เวลาใช้ช้อนตักจะได้สามเลเยอร์พร้อมกัน ทั้งนุ่ม ชุ่มฉ่ำ และหอมเลม่อนแบบไม่แหลมจนเกินไป

บทความนี้จะชวนมาดูว่า เลม่อนเค้กคืออะไร โครงสร้างเค้กแบบนี้ต่างจากเลม่อนทาร์ตยังไง ส่วนผสมแต่ละชั้นทำหน้าที่อะไร รวมถึงเคล็ดลับทำเลม่อนเค้กให้เนื้อนุ่ม ไม่แห้ง ไม่เป็นไต เหมาะทั้งทำกินเองและพัฒนาสูตรไปทำขายได้ในอนาคต

เลม่อนเค้กคืออะไร

เลม่อนเค้ก (Lemon Cake) คือเค้กที่ใช้รสชาติหลักจากเลม่อน ทั้งในรูปแบบน้ำเลม่อน (lemon juice) และผิวเลม่อนขูด (lemon zest) เพื่อให้ได้ทั้งรสเปรี้ยวสดชื่นและกลิ่นหอมเปลือกเลม่อนตามธรรมชาติ ความเปรี้ยวหวานจะมากน้อยต่างกันไปตามสไตล์ บางแบบจะออกแนวเค้กเนยแน่น ๆ ราดเลม่อนกลาซ แต่สไตล์ของ Kanomcake Kitchen เน้น เนื้อสปันจ์เค้กฟูนุ่ม ฉ่ำเบา กินง่าย เหมาะกับคนที่ไม่ชอบเค้กมันเลี่ยนเกินไป

ถ้าเทียบกับเลม่อนทาร์ตที่ฐานเป็นแป้งกรอบ ๆ เลม่อนเค้กจะให้ความรู้สึกนุ่มละมุนกว่า เคี้ยวง่าย กินได้เรื่อย ๆ เหมาะทั้งเป็นเค้กชิ้นเสิร์ฟคู่กาแฟ และเป็นเค้กวันเกิดสไตล์ผลไม้เปรี้ยวหวานสำหรับคนที่ไม่อยากกินเค้กช็อกโกแลตหนัก ๆ

โครงสร้างเลเยอร์ของเลม่อนเค้กสไตล์ Kanomcake Kitchen

เลม่อนเค้กที่เล่าในบทความนี้ คือเค้กที่ประกอบด้วย 3 เลเยอร์หลัก ๆ ตามนี้

ชั้นของเค้กลักษณะหน้าที่ / ผลต่อรสสัมผัส
1. สปันจ์เค้กเลม่อน เนื้อเค้กฟูเบา โครงสร้างมาจากไข่ที่ตีจนขึ้นฟู ผสมน้ำมัน/เนยเล็กน้อย เป็น “ตัวหลัก” ของเค้ก ให้ความนุ่ม ฟู และเป็นโครงสร้างรองรับไส้และวิปครีม
2. ไส้เลม่อนครีม ไส้เลม่อนคัสตาร์ดหรือเลม่อนเคิร์ด ดัดแปลงให้เนียนนุ่ม ไม่เปรี้ยวจัด เพิ่มรสเลม่อนแบบชัด ๆ ให้รสเปรี้ยวหวานตัดกับเนื้อเค้ก ทำให้เค้กไม่จืด
3. วิปปิ้งครีมอ่อน วิปครีมตีฟูอ่อน ๆ เนื้อเบา ไม่แข็งจนเป็นบัตเตอร์ครีม ช่วยบาลานซ์ความเปรี้ยวของเลม่อน เพิ่มความนุ่มละมุนเวลากินรวมกันทุกเลเยอร์
ไอเดียเซอร์วิส: บางร้านจะราดซอสเลม่อนเพิ่มบนวิปครีมอ่อน ๆ หรือโรยผิวเลม่อนขูดเล็กน้อยด้านบน เพื่อให้กลิ่นหอมชัดขึ้นเวลาเสิร์ฟ และช่วยบอกคาแรกเตอร์ว่าเป็นเค้กเลม่อนตั้งแต่แรกเห็น

รสชาติและจุดเด่นของเลม่อนเค้กแบบสปันจ์

จุดเด่นของเลม่อนเค้กสไตล์นี้คือ บาลานซ์ระหว่าง “นุ่ม–ชุ่ม–สดชื่น” ไม่ได้เปรี้ยวจนจี๊ดหรือหวานจัดเกินไป เนื้อเค้กสปันจ์จะไม่แน่นแบบบัตเตอร์เค้ก ทำให้รับรสไส้เลม่อนครีมและวิปครีมได้เต็ม ๆ โดยไม่หนัก

  • เนื้อสัมผัส: ฟูเบา แต่มีความชุ่มฉ่ำจากไซรัปหรือส่วนผสมของเหลวในสูตร ไม่ร่วนแห้ง
  • รสชาติ: เปรี้ยวหวานแบบสดชื่นจากเลม่อน ตัดกับความนุ่มมันของวิปครีม
  • กลิ่น: ได้กลิ่นหอมจากผิวเลม่อนขูด และอาจเสริมด้วย วานิลลา เล็กน้อยให้กลิ่นนุ่มขึ้น
  • หน้าตา: ตัดเป็นชิ้นจะแยกชั้นเค้ก–ไส้เลม่อน–วิปครีมชัดเจน เหมาะกับโชว์หน้าตาในตู้เค้ก

อยากทำเลม่อนเค้กให้เนื้อนุ่ม ไม่แห้ง ไม่แน่น?

ถ้าเคยเจอปัญหาเค้กแน่น เค้กแห้ง หรือโครงสร้างสปันจ์เสีย ลองอ่านบทความพื้นฐานและต่อยอดด้วยคอร์สเรียน จะช่วยให้เข้าใจทั้งเรื่องสูตรและเทคนิคตีไข่–อบเค้กได้ดีขึ้น

ส่วนผสมหลักที่กำหนดคาแรกเตอร์เลม่อนเค้ก

แม้จะเรียกรวม ๆ ว่าเลม่อนเค้ก แต่รายละเอียดรสชาติจะเปลี่ยนไปได้มากตามสัดส่วนวัตถุดิบ โดยเฉพาะ 4 กลุ่มนี้

1. น้ำเลม่อน (Lemon Juice)

เป็นแหล่งความเปรี้ยวโดยตรง ถ้าใส่ในปริมาณมากจะได้รสเปรี้ยวชัด แต่ต้องบาลานซ์กับน้ำตาลและไขมันให้ดี ไม่อย่างนั้นเนื้อเค้กอาจเสียโครงสร้างหรือเปรี้ยวจนทานยาก ในไส้เลม่อนครีมมักใช้น้ำเลม่อนมากกว่าในตัวเค้ก

2. ผิวเลม่อนขูด (Lemon Zest)

ช่วยให้กลิ่นหอมเลม่อนแบบ “สวย ๆ” โดยไม่ต้องเพิ่มความเป็นกรด เลือกใช้เฉพาะส่วนสีเหลืองของเปลือก ไม่ขูดลึกไปถึงส่วนสีขาวเพราะจะมีรสขม ผิวเลม่อนจะถูกใส่ในทั้งตัวเค้กและไส้เลม่อนครีม

3. ฐานเค้กแบบสปันจ์

สปันจ์เค้กจะได้โครงสร้างจาก ไข่ที่ตีขึ้นฟูรวมกับน้ำตาล ทำให้ได้เนื้อฟูเบา ถ้าใช้วิธีชิฟฟ่อนหรือสปันจ์พิมพ์กลม มักจะมีการใช้ แป้งเค้ก ไขมันปริมาณไม่มาก และอาจมีนม/น้ำมันพืชช่วยให้เค้กนุ่มชุ่มไม่แห้ง

4. เลม่อนครีมและวิปปิ้งครีมอ่อน

เลม่อนครีม มักเป็นคัสตาร์ดผสมไข่ เนย น้ำตาล และน้ำเลม่อน ปรุงให้ได้ความเปรี้ยวหวานพอดี ส่วน วิปปิ้งครีมอ่อน จะตีแค่ระดับ soft peak เพื่อให้ยังนุ่มไหลตัวเล็กน้อย เวลากินรวมกับเลเยอร์อื่นจะไม่รู้สึกเลี่ยน

Tips เรื่องวัตถุดิบ: การเลือกเนย คุณภาพดีและวิปปิ้งครีมที่เหมาะกับงานเบเกอรี่ จะช่วยให้กลิ่นและเนื้อสัมผัสดีขึ้นมาก ถ้าอยากศึกษาเรื่องวัตถุดิบให้ลึกขึ้น ลองดูเพิ่มได้ที่ เนยสดแบบไหนดี และ ครีมชีสคืออะไร

เทคนิคทำเลม่อนเค้กให้นุ่ม ชุ่มฉ่ำ ไม่แห้ง

ปัญหาที่เจอบ่อยเวลาเริ่มทำเลม่อนเค้กคือ เนื้อเค้กแน่น ยุบตรงกลาง หรือเค้กแห้งจนไส้ช่วยอะไรไม่ได้ ลองเช็กเทคนิคหลัก ๆ เหล่านี้

  • ควบคุมการตีไข่: ถ้าเป็นสปันจ์หรือชิฟฟ่อน อย่าตีไข่จนฟองหยาบหรือแยกชั้น ฟองอากาศจะใหญ่และยุบง่าย ทำให้เนื้อเค้กแน่นหรือยุบหลังอบ
  • ร่อนแป้งและตะล่อมเบา ๆ: แป้งควรถูกร่อนก่อนผสมเสมอ และใช้วิธีพับ (fold) แทนการคนแรง ๆ เพื่อลดการยุบตัวของฟองไข่
  • ไซรัปช่วยเพิ่มความชุ่มฉ่ำ: บางสูตรจะใช้ไซรัปราดบาง ๆ บนสปันจ์เค้กก่อนประกอบเลเยอร์ เพื่อให้เค้กชุ่มขึ้นและช่วยพา กลิ่นเลม่อนเข้าไปในเนื้อเค้ก
  • บาลานซ์รสเปรี้ยว–หวาน: ถ้าไส้เลม่อนครีมเปรี้ยวจัด ควรให้วิปครีมด้านบนรสออกนม ๆ ไม่หวานจัด เพื่อให้กินรวมกันแล้วกลมกล่อม
  • เวลาอบและอุณหภูมิ: อบไฟกลางที่เสถียร ตามเวลาที่สูตรกำหนด และเช็กสุกด้วยไม้จิ้มฟัน ถ้าอบเกินไปเล็กน้อย เค้กเลม่อนจะแห้งเร็วกว่าช็อกโกแลตเค้กเพราะไม่มีไขมันจากช็อกโกแลตช่วย

ถ้าสนใจรายละเอียดปัญหาเนื้อเค้ก เช่น เค้กแน่น เค้กยุบ เค้กเป็นไต ลองอ่านต่อที่ สาเหตุเนื้อเค้กแน่นและวิธีแก้ จะช่วยให้เข้าใจมากขึ้นว่าโครงสร้างเค้กพังเพราะอะไร

เลม่อนเค้กเหมาะกับใคร และเหมาะทำขายแบบไหน

เลม่อนเค้กสไตล์สปันจ์ ไส้เลม่อนครีม วิปครีมอ่อน เหมาะมากสำหรับ

  • คนที่ไม่ชอบเค้กหวานเลี่ยน: ความเปรี้ยวของเลม่อนช่วยตัดเลี่ยนได้ดี
  • เมนูร้านกาแฟ/ทีรูม: เสิร์ฟคู่ชา กาแฟ หรืออเมริกาโน่ได้ลงตัว
  • เค้กวันเกิดสไตล์ผลไม้: ตกแต่งหน้าด้วยสไลซ์เลม่อนหรือผลไม้อื่นให้ดูสดใส
  • เมนูทำขาย: แนะนำทำเป็นถาดแบ่งชิ้น หรือเค้กกลม 1 ปอนด์ สำหรับสั่งล่วงหน้า เพราะมีส่วนของวิปครีม ต้องควบคุมเรื่องอุณหภูมิและเวลาโชว์หน้าร้าน
สำหรับคนที่อยากทำขายจริงจัง: นอกจากรสชาติแล้ว ต้องวางแผนเรื่อง ต้นทุนต่อชิ้น, อายุสินค้าในตู้เค้ก และการขนส่งร่วมด้วย ในคอร์สเมนูทำขายของ Kanomcake Kitchen จะช่วยคำนวณและปรับสูตรให้เหมาะกับรูปแบบร้านของแต่ละคน

สรุปการเลือกทำเลม่อนเค้กสำหรับมือใหม่

ถ้าเพิ่งเริ่มทำเลม่อนเค้ก ลองใช้แนวคิดนี้เป็นจุดเริ่มต้นได้เลย

  • เลือกฐานเค้ก: ใช้สปันจ์หรือชิฟฟ่อนเค้กที่สูตรนิ่งก่อน แล้วค่อยดัดแปลงให้เป็นเลม่อนเค้ก
  • เริ่มจากเลม่อนครีมความเปรี้ยวกลาง ๆ: ทดสอบรสเปรี้ยว–หวานให้ได้ตามกลุ่มลูกค้าหรือคนทานในบ้าน
  • ใช้วิปปิ้งครีมอ่อนช่วยบาลานซ์: ไม่ต้องแต่งหน้าซับซ้อนมากก็ขายได้ ถ้ารสชาติบาลานซ์ดี
  • ลองทำเป็นถาดแบ่งชิ้น: เป็นรูปแบบที่จัดการง่าย เหมาะฝึกสำหรับคนที่อยากเริ่มทำขาย

ถ้าเริ่มสนใจเมนูเค้กผลไม้อื่น ๆ ต่อจากเลม่อนเค้ก แนะนำให้ลองดู สตรอว์เบอร์รี่ชอร์ตเค้ก หรือ เค้กง่าย ๆ สำหรับมือใหม่ เพื่อเห็นภาพว่าโครงสร้างเค้กแต่ละแบบต่างกันยังไง และจะพัฒนาสูตรต่อยอดไปเป็นเมนูขายได้แบบไหนบ้าง

อยากลองทำเลม่อนเค้กแบบสปันจ์ ไส้เลม่อนครีม วิปครีมนุ่มกับเชฟ?

ในคลาสของ Kanomcake Kitchen ผู้เรียนจะได้ลงมือทำเค้กผลไม้สไตล์ร้านกาแฟจริง ทั้งเลม่อนเค้ก สตรอว์เบอร์รี่เค้ก และเค้กเนื้อนุ่มแบบอื่น ๆ พร้อมอธิบายเรื่องสูตร แป้ง ไข่ และการควบคุมเตาอบให้ได้เนื้อเค้กฟูนุ่ม ไม่แน่น ไม่แห้ง เหมาะทั้งมือใหม่และคนที่อยากพัฒนาสูตรไปทำขาย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลม่อนเค้ก

เลม่อนเค้ก ใช้ฐานเป็นเนื้อเค้กฟูเบา (เช่น สปันจ์หรือชิฟฟ่อน) ราดหรือใส่ไส้เลม่อนครีมด้านใน และปิดด้วยวิปครีมหรือครีมอื่น ส่วน เลม่อนทาร์ต ฐานเป็นแป้งทาร์ตกรอบ ใส่เลม่อนครีมเต็มหน้า กินแล้วให้ความรู้สึกกรอบ–นุ่ม ต่างจากเค้กที่เน้นฟูเบาและชุ่มฉ่ำ

เลือกสูตรแบบที่ เน้นกลิ่นจากผิวเลม่อนขูด และปรับน้ำเลม่อนในไส้ให้ไม่เปรี้ยวจัด ใช้วิปครีมอ่อนช่วยบาลานซ์อีกชั้นจะทำให้รสออกแนวหอมสดชื่นมากกว่าเปรี้ยวจี๊ด ในคลาสจะมีสอนวิธีปรับสัดส่วนให้เหมาะกับรสนิยมของแต่ละคน

เพราะมีทั้งไส้เลม่อนครีมและวิปปิ้งครีม ควรเก็บในตู้เย็นตลอดเวลา ถ้าเป็นงานโฮมเมดทั่วไป แนะนำให้ขายหรือทานให้หมดภายใน 2–3 วัน เพื่อให้รสชาติและเนื้อสัมผัสดีที่สุด และควรหลีกเลี่ยงการวางทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องเป็นเวลานาน

เค้กแห้งอาจมาจาก อบนานเกินไป อุณหภูมิสูงเกิน หรือสูตรไขมัน/ของเหลวน้อยไป ลองเช็กเวลาอบให้สั้นลงเล็กน้อย ใช้วิธีทดสอบสุกด้วยไม้จิ้มฟัน และอาจเพิ่มไซรัปเลม่อนราดบาง ๆ บนตัวเค้กก่อนประกอบเลเยอร์เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มฉ่ำ

แนะนำให้เริ่มจาก คอร์สพื้นฐานเค้ก เพื่อให้เข้าใจโครงสร้างเนื้อเค้ก ฟองไข่ การเลือกแป้งและการตั้งเตาอบ จากนั้นค่อยต่อยอดไปคอร์ส คอร์สเลือกเมนูเอง หรือคอร์สเมนูทำขายที่ใช้เลม่อนเค้กและเค้กผลไม้เป็นหลัก เชฟจะช่วยปรับสูตรให้เหมาะกับต้นทุนและรูปแบบร้านของแต่ละคน