ครีมชีสแบบก้อนและแบบถัง | ใช้ต่างกันอย่างไร?
ครีมชีสคืออะไร? ใช้แบบไหนดีสำหรับทำเบเกอรี่
ครีมชีสเป็นวัตถุดิบสำคัญมากในงานเบเกอรี่ โดยเฉพาะชีสเค้ก คัพเค้กฟรอสติ้ง และไส้ขนมต่างๆ มีลักษณะเป็นเนื้อครีมเหนียวนุ่ม รสเปรี้ยวนิดๆ ให้ความครีมมี่ละมุน ทำให้เนื้อขนมมีความหอมมันขึ้นอย่างชัดเจน
สารบัญบทความ
ครีมชีสคืออะไร?
ผลิตจากนมและครีม มีไขมันประมาณ 33% ให้รสครีมมี่ เปรี้ยวเล็กน้อย เป็นรสชาติเอกลักษณ์ของชีสเค้กและครีมชีสฟรอสติ้ง จุดเด่นคือให้เนื้อสัมผัสเนียน แน่น แต่ไม่หนักจนเกินไป
ครีมชีสทำมาจากอะไร?
ครีมชีสจัดอยู่ในกลุ่ม ชีสสด (Fresh Cheese) ซึ่งไม่ผ่านการบ่ม ทำให้มีรสอ่อนและเนื้อสัมผัสนุ่มกว่าเชดด้าร์หรือมอซซาเรลล่า โดยทั่วไปผลิตจากส่วนผสมหลักคือ “นมสด + ครีม” ผ่านกระบวนการทำให้โปรตีนจับตัวกันจนได้เนื้อครีมที่แน่นและครีมมี่เป็นพิเศษ
- ใช้นมและครีมในสัดส่วนสูง จึงได้ความมันและเนื้อเนียน
- มีการเติมกรดหรือจุลินทรีย์ ทำให้เกิดรสเปรี้ยวเล็กน้อยซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของครีมชีส
- ไขมันประมาณ 30–35% ทำให้ตีขึ้นฟูได้ดีและคงตัวสวยเวลาทำฟรอสติ้ง
เนื้อครีมชีสที่ได้จึงมีความแน่นแต่ยังนุ่มพอที่จะตีให้เนียน เป็นเหตุผลว่าทำไมครีมชีสจึงเป็นวัตถุดิบหลักของชีสเค้กและครีมแต่งหน้าเค้กแทบทุกสูตร
ครีมชีสคือชีสประเภทไหน?
ครีมชีสอยู่ในกลุ่ม Soft Fresh Cheese เช่นเดียวกับริคอตต้าและมาสคาโปเน่ ต่างจากชีสที่ผ่านการบ่ม เช่น เชดด้าร์หรือพาร์เมซานที่มีเนื้อแน่นและรสเข้มกว่า จึงเหมาะกับงานขนมที่ต้องการความเนียนและรสอ่อนละมุน
- ไม่เค็ม ไม่มีกลิ่นแรง
- เนื้อเนียนกว่าชีสแบบบ่ม
- ใช้ได้ทั้งงานอบและงานตีฟรอสติ้ง
ครีมชีสมีกี่แบบ? ใช้ต่างกันอย่างไร
1) ครีมชีสแบบก้อน (Block Cream Cheese)
เป็นแบบที่นิยมใช้ทำเบเกอรี่มากที่สุด เนื้อค่อนข้างแข็ง เหมาะกับชีสเค้กอบ บาสก์ชีสเค้ก และฟรอสติ้งที่ต้องการความคงตัวดี
- เนื้อแน่น ครีมมี่
- เหมาะกับงานอบ
- นิยมใช้แบรนด์ Philadelphia, President, Emborg
2) ครีมชีสแบบถัง (Tub Cream Cheese)
เนื้อนิ่ม ตีง่าย เหมาะกับการทำฟรอสติ้งและครีมแต่งหน้าเค้ก แต่ไม่เหมาะกับชีสเค้กอบ เพราะเนื้อจะไม่คงรูปเท่าแบบก้อน
เปรียบเทียบครีมชีสแบบก้อน vs แบบถัง
สำหรับมือใหม่ หลายคนสับสนว่าควรเลือกแบบไหนระหว่าง “ก้อน” และ “ถัง” ตารางนี้ช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้น:
| รายการ | ครีมชีสแบบก้อน | ครีมชีสแบบถัง |
|---|---|---|
| เนื้อสัมผัส | แน่น คงตัวสูง | นิ่ม ฟูง่าย |
| เหมาะกับงาน | ชีสเค้กอบ, บาสก์ชีสเค้ก, ฟรอสติ้งที่ต้องการความอยู่ตัว | ฟรอสติ้งแต่งหน้าเค้ก, ไส้คัพเค้ก |
| ไม่เหมาะกับ | สูตรที่ต้องการเนียนเร็ว เช่นตีผสมกับครีมเย็นจัด | ชีสเค้กอบ (เนื้อไม่คงรูปพอ) |
| ราคาโดยทั่วไป | สูงกว่า | ประหยัดกว่า |
3) ครีมชีสแบบทาขนมปัง (Spreadable Cream Cheese)
เนื้ออ่อนที่สุด และมีส่วนผสมอื่นเพิ่มเติม เช่น เกลือหรือนมผง จึงไม่เหมาะสำหรับงานเบเกอรี่ ใช้สำหรับทาขนมปังเท่านั้น
การเก็บรักษาครีมชีส (เก็บยังไงให้ไม่เสียเร็ว?)
- เก็บในตู้เย็นช่องธรรมดา อุณหภูมิ 2–6°C
- หลังเปิดใช้ควรปิดให้สนิท และใช้ให้หมดภายใน 7–10 วัน เพื่อให้รสชาติและเนื้อสัมผัสดีที่สุด
- แช่แข็งได้ แต่เนื้อจะแตกตัวและร่วนเล็กน้อย ต้องตีให้เนียนก่อนใช้งาน
- สังเกตครีมชีสเสีย: กลิ่นเปรี้ยวจัด, เป็นน้ำ, มีราขาว/เขียว
ครีมชีสยี่ห้อไหนดีสำหรับมือใหม่?
ครีมชีสที่ขายในไทยมีหลายยี่ห้อ แต่ละแบบมีจุดเด่นเฉพาะตัว หากเป็นมือใหม่ แนะนำตัวเลือกต่อไปนี้:
1) Philadelphia
- รสชาติหอมเฉพาะตัว เนื้อคงตัวดีมาก
- ตีเนียนง่าย เหมาะกับทั้งชีสเค้กอบและไม่อบ
- ราคาสูงกว่าแบรนด์ทั่วไป แต่คุณภาพคงเส้นคงวา
2) President
- เนื้อเนียน กลิ่นอ่อนกว่า Philadelphia
- ให้ความเปรี้ยวกำลังดี ใช้ได้ทั้งงานคาวและเบเกอรี่
3) Emborg / Allowrie
- ราคาคุ้มค่า เหมาะกับมือใหม่และผู้ที่ต้องการใช้ปริมาณเยอะ
- ตีง่าย เหมาะกับฟรอสติ้งและไส้ครีมชีส
สรุปสำหรับมือใหม่: ถ้าทำชีสเค้กอบ → เลือกแบบก้อน ส่วนงานฟรอสติ้งหรืองานแต่งหน้าเค้กสามารถใช้แบบถังได้
ครีมชีสใช้ทำอะไรได้บ้าง?
- ชีสเค้กอบ / บาสก์ชีสเค้ก
- ครีมชีสฟรอสติ้งแต่งหน้าเค้ก
- ไส้คัพเค้ก
- ไส้ทาร์ต
- ครีมไส้ชินนามอนโรล
ครีมชีส vs มาสคาโปเน่ ต่างกันอย่างไร?
หลายคนสับสนว่าครีมชีสกับมาสคาโปเน่เหมือนกันไหม แม้ทั้งคู่จะเป็นชีสสด แต่มีความต่างสำคัญดังนี้:
- ครีมชีส – มีรสเปรี้ยวเล็กน้อย เนื้อแน่น คงตัวดี เหมาะกับชีสเค้กอบและฟรอสติ้ง
- มาสคาโปเน่ – ไขมันสูงกว่า กลิ่นอ่อนกว่า เนื้อนิ่มกว่า เหมาะกับทีรามิสึหรือของหวานไม่อบ
- ใช้แทนกันได้บางสูตร แต่ถ้าต้องการความคงตัวแนะนำใช้ครีมชีสแบบก้อน
อ่านแบบละเอียดได้ในบทความ: ครีมชีส vs มาสคาโปเน่ แบบไหนเหมาะกับงานไหน?
อยากเรียนใช้ครีมชีสทำเบเกอรี่?
คอร์สที่สอนการใช้ครีมชีส
ปัญหาที่พบบ่อยเมื่อใช้ครีมชีส
ครีมชีสตีแล้วเป็นเม็ด เกิดจากอะไร?
ส่วนใหญ่เกิดจากครีมชีสที่ยังเย็นจัด ทำให้ไขมันแยกตัวเมื่อโดนแรงตี วิธีแก้คือพักครีมชีสที่อุณหภูมิห้อง 15–20 นาที แล้วตีด้วยสปีดต่ำจนเนียนก่อนผสมส่วนอื่น
ครีมชีสเหลวเกินไปทำยังไง?
เกิดจากอุณหภูมิร้อนเกินหรือผสมของเหลวเร็วไป ควรพักครีมชีสในตู้เย็น 15 นาทีแล้วค่อยตีเพิ่มความคงตัว
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับครีมชีส
อยากใช้ครีมชีสให้เป็นมืออาชีพ?
มาเรียนทำชีสเค้ก คัพเค้กฟรอสติ้ง และพื้นฐานเบเกอรี่กับเชฟที่ Kanomcake Kitchen สอนแบบลงมือทำจริง พร้อมครีมชีสหลายแบบให้ทดลอง