มาการองแตก แผ่ ไม่ขึ้นฟุต ระหว่างอบ Kanomcake Kitchen

มาการองแตก แผ่ ไม่ขึ้นฟุต เพราะอะไร? วิธีแก้ปัญหามาการองแบบเชฟ

หลายคนเริ่มทำมาการองครั้งแรกแล้วเจอปัญหาเดิม ๆ เช่น มาการองแตก หน้าร้าว แผ่แบน ไม่ขึ้นฟุต ทั้งที่ทำตามสูตรเป๊ะทุกอย่าง จนไม่รู้ว่าพลาดตรงไหนกันแน่ จริง ๆ แล้วปัญหาพวกนี้ไม่ได้เกิดจากสูตรอย่างเดียว แต่เกิดจากการตีเมอแรงก์ การทำ macaronage การพักผิว และไฟเตาอบรวมกันทั้งหมด

บทความนี้ Kanomcake Kitchen จะพาไล่ดูทีละปัญหา ว่าทำไมมาการองถึงแตก แผ่ หรือไม่ขึ้นฟุต พร้อมแนวทางแก้แบบเป็นขั้นตอน เหมือนที่ใช้สอนในคลาสคอร์สมาการองของเรา

สรุปสั้น ๆ: ปัญหามาการองส่วนใหญ่กว่า 80% มาจาก 3 เรื่องหลัก คือการตีเมอแรงก์ การทำ macaronage และการพักผิวให้แห้งสนิท ก่อนเข้าเตาอบ ถ้าคุมสามอย่างนี้ได้ ปัญหาแตก แผ่ หรือไม่ขึ้นฟุตจะลดลงอย่างชัดเจน

มาการองแตก แผ่ ไม่ขึ้นฟุต คือปัญหาเดียวกันไหม

ถึงแม้ชื่อปัญหาจะต่างกัน แต่มักเกิดจากการเสียสมดุลระหว่าง โครงสร้างของตัวแป้ง (เปลือก) กับ ความร้อนในเตาอบ เช่น เมอแรงก์อ่อนเกิน เนื้อเหลวเกิน หรือไฟแรงเกินไป ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ดังนี้

  • มาการองแตก: ผิวด้านบนปริเป็นรอยร้าว ฟุตด้านล่างดันผิวจนแตก
  • มาการองแผ่ / แบน: เปลือกแผ่ออกด้านข้างเยอะ ฟุตไม่ตั้งตัว รูปทรงไม่สวย
  • ไม่ขึ้นฟุต: ด้านล่างไม่ดันขึ้น เป็นแผ่นแบน ๆ เหมือนคุกกี้

วิธีแก้จึงต้องมองทั้งเรื่องสูตร เนื้อสัมผัสก่อนเข้าเตา และการควบคุมอุณหภูมิเตาอบไปพร้อมกัน ไม่ใช่แค่โทษสูตรอย่างเดียว

สาเหตุหลักที่ทำให้มาการองแตก แผ่ หรือไม่ขึ้นฟุต

ตารางด้านล่างคือภาพรวมของสาเหตุยอดฮิต และวิธีสังเกตเบื้องต้นจากหน้าตามาการองหลังอบ

สาเหตุสังเกตจากอะไร
พักผิวไม่พอ ผิวด้านบนยังเหนียว แตะแล้วติดนิ้ว พอเข้าเตาอบ ฟุตดันขึ้นจนผิวแตก
ไฟเตาแรงเกินไป ผิวด้านบนเซตตัวเร็วเกิน แต่ด้านในยังดันต่อ ทำให้เกิดรอยร้าวบนหน้าเปลือก
ไฟเตาอ่อนเกินไป เปลือกไม่ค่อยขยายตัว ไม่ค่อยดันขึ้นฟุต ดูแบนและด้านล่างไม่ฟู
macaronage มากเกินไป เนื้อเหลวเกินไป บีบลงแล้วแผ่เป็นวงกว้าง ฟุตไม่คม และดูแบน
macaronage น้อยเกินไป ผิวหน้าหยาบ มีจุดเป็นเม็ด ๆ ไม่เรียบ บางครั้งมียอดเล็ก ๆ เหลืออยู่ตรงกลาง
เมอแรงก์อ่อนเกิน ส่วนผสมยุบง่าย ไม่ค่อยเกาะตัว ทำให้ไม่ขึ้นฟุต หรือฟุตแผ่ออก
ความชื้นในห้องสูง พักผิวนานแล้วแต่ยังเหนียว แตะแล้วยังพอหนืด ๆ ทำให้แตกง่าย
อัลมอนด์ป่นหยาบ / ไม่ร่อน ผิวเปลือกไม่เรียบ มีตุ่มเล็ก ๆ หรือรูพรุนบนหน้า

มาการองแตก: สาเหตุและวิธีแก้

อาการ: ผิวด้านบนปริเป็นรอยร้าว ฟุตดูดันแรงจนผิวแตก บางครั้งจะเห็นเป็นเศษเปลือกเล็ก ๆ บนถาด

สาเหตุที่ทำให้มาการองแตก

  • พักผิวน้อยเกินไป: ผิวยังไม่แห้ง แตะแล้วติดนิ้ว เมื่อเข้าเตา ฟุตดันจนผิวฉีก
  • อุณหภูมิเตาอบสูงเกิน: ผิวด้านนอกสุกเร็ว แต่ด้านในยังดันต่อ ทำให้เกิดแรงดันใต้ผิว
  • macaronage ข้นเกิน: ส่วนผสมหนืดเกิน ทำให้ก๊าซจากการอบดันออกไม่สะดวก เกิดรอยแตก
  • ความชื้นสูง: พักผิวนานแต่ผิวไม่แห้งจริง มีความเหนียวหลงเหลืออยู่

วิธีแก้ปัญหามาการองแตก

  • พักผิวจนแตะแล้ว ไม่ติดนิ้วเลย ไม่เหนียว ไม่หนืด
  • ทดลองลดไฟลงทีละ 10–20°C จากอุณหภูมิเดิมที่ใช้ แล้วจดบันทึกผล
  • เช็กเนื้อ macaronage ให้ไหลเป็นริบบอนต่อเนื่อง 8–10 วินาที ไม่ข้นเป็นก้อน
  • ถ้าวันไหนอากาศชื้นมาก ลองใช้พัดลมตั้งโต๊ะช่วยเป่าระหว่างพักผิว

มาการองแผ่ / แบน: สาเหตุและวิธีแก้

อาการ: เปลือกแผ่ออกด้านข้างเยอะ รูปทรงแบน ฟุตไม่คม หรือแทบไม่มีฟุตเลย

สาเหตุที่ทำให้มาการองแผ่ / แบน

  • macaronage มากเกินไป: คนส่วนผสมนานจนเหลว พอพักผิวก็แผ่ออก
  • เมอแรงก์อ่อน: ลองยกหัวตีดูแล้วยอดงอลง หรือเนื้อฟองดูหยาบ
  • ส่วนผสมเปียกเกิน: ใช้สารให้ความชื้นหรือสีผสมอาหารเหลวมากไป
  • ไฟเตาอ่อนเกิน: ตัวเปลือกไม่มีแรงดันให้ขึ้นฟุต เลยแผ่ออกด้านข้างแทน

วิธีแก้ปัญหามาการองแผ่ / แบน

  • ระวังตอนทำ macaronage ให้หยุดเมื่อยกพายขึ้นแล้วเนื้อไหลเป็นเส้นต่อเนื่อง 8–10 วินาที ไม่เหลวจนแผ่ทันที
  • ตีเมอแรงก์ให้ถึงระดับตั้งยอดตรง (ยอดตั้งและไม่งอลง)
  • เลี่ยงการใส่สีผสมอาหารแบบน้ำ ปรับมาใช้แบบเจลหรือผงแทน
  • ลองเพิ่มอุณหภูมิเตาอีกเล็กน้อย 5–10°C เพื่อช่วยให้ฟุตดันตัวดีขึ้น

มาการองไม่ขึ้นฟุต: สาเหตุและวิธีแก้

อาการ: ด้านล่างไม่ดันตัวขึ้น ไม่มีขอบฟุต หรือมีเล็กน้อยจนแทบมองไม่เห็น

สาเหตุที่ทำให้ไม่ขึ้นฟุต

  • เมอแรงก์อ่อนเกินไป: ฟองอากาศในเนื้อไม่แข็งแรงพอที่จะดันเปลือกขึ้น
  • ไฟเตาอ่อน: ความร้อนไม่พอให้เกิดการขยายตัวและฟุตสวย ๆ
  • พักผิวนานเกินไป: ผิวแข็งจนเกินไป ทำให้ฟุตดันไม่ออก
  • ถาดไม่ร้อน: นำเข้าเตาทันทีหลังเปิดไฟใหม่ เตายังไม่เสถียร

วิธีแก้ปัญหาไม่ขึ้นฟุต

  • ตีเมอแรงก์ให้อยู่ในระดับตั้งยอดตรง มีความเงา ไม่แห้งด้าน
  • ทดลองเพิ่มอุณหภูมิเตา 5–10°C และจดผลลัพธ์แต่ละรอบ
  • พักผิวแค่จนแตะแล้วไม่ติดนิ้ว ไม่ควรปล่อยจนผิวเริ่มหนาแข็ง
  • พรีฮีตเตาอย่างน้อย 15 นาที และวางถาดในตำแหน่งที่เตาร้อนสม่ำเสมอ

มาการองผิวไม่เรียบ เป็นเม็ด ๆ หรือมีรู

อาการ: ผิวหน้าเห็นเม็ดอัลมอนด์ชัด มีรูเล็ก ๆ บนผิว หรือไม่เนียนเป็นแผ่นเรียบ

สาเหตุและวิธีแก้

  • อัลมอนด์ป่นหยาบ / ไม่ร่อน:
    แก้ด้วยการใช้อัลมอนด์ป่นละเอียด และร่อนอัลมอนด์กับน้ำตาลไอซิ่ง 2–3 รอบ
  • macaronage น้อยเกินไป:
    แก้โดยตะล่อมต่ออีกเล็กน้อยจนส่วนผสมเนียนและฟองใหญ่แตกออก
  • ไม่เคาะถาดไล่ฟองอากาศ:
    หลังบีบเสร็จควรเคาะถาดเบา ๆ หลายครั้ง และใช้ไม้จิ้มฟันเจาะฟองที่เห็นบนผิว

Macaronage คืออะไร และรู้ได้ยังไงว่าพอดี

macaronage คือขั้นตอนการผสมเมอแรงก์กับอัลมอนด์ป่นและน้ำตาลไอซิ่งให้เข้ากัน โดยใช้พายซิลิโคนพับและกดเบา ๆ เพื่อให้ฟองอากาศส่วนเกินแตกออก เหลือเฉพาะฟองที่แข็งแรงพอสำหรับดันขึ้นฟุต

จุดที่เรียกว่า “พอดี” คือเมื่อยกพายขึ้นแล้วเนื้อเปลือกไหลลงมาเป็นเส้นต่อเนื่อง ไม่ขาดตอน และเส้นที่ไหลลงมาจะค่อย ๆ กลืนหายไปใน 8–10 วินาที ถ้าไหลช้าและเป็นก้อนแปลว่ายังข้นไป แต่ถ้าไหลเร็วและแผ่ทันทีแปลว่าเหลวเกิน

ทิปจากในคลาส: เวลาเริ่มฝึก แนะนำให้แบ่งส่วนผสมออกเป็นสองส่วน ทำ macaronage ต่างกันเล็กน้อย แล้วอบเทียบกันบนถาดเดียว จะช่วยให้เห็นความแตกต่างของ “เกิน” กับ “ไม่ถึง” ชัดเจนมากขึ้น

เมอแรงก์ที่ดีควรเป็นแบบไหน

เมอแรงก์คือหัวใจอีกดวงของมาการอง ถ้าเมอแรงก์อ่อนเกินไป ฟุตจะไม่ขึ้นหรือแผ่ แต่ถ้าตีเกินไปก็จะแตกง่าย

  • ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทีละช้อน ไม่เทรวดเดียว
  • ไล่สปีดเครื่องตีจากต่ำไปกลาง-สูง ไม่เปิดแรงสุดตั้งแต่แรก
  • เมอแรงก์ที่ใช้ควรอยู่ระดับ ตั้งยอดตรง ยอดตั้งและไม่งอลง เนื้อยังเงานิด ๆ ไม่แห้งด้าน
  • ถ้าเมอแรงก์แห้ง แข็งเป็นเม็ด ๆ แสดงว่าตีเกินไป จะผสมยากและแตกง่าย

การพักผิวมาการองให้แห้งสนิท

การพักผิวคือการปล่อยให้ผิวด้านบนของมาการองเซตตัวเล็กน้อย เกิดเป็นฟิล์มบาง ๆ ก่อนเข้าเตาอบ เพื่อให้ฟุตดันตัวเองออกด้านข้างได้อย่างสวยงามโดยไม่ทำให้ผิวแตก

  • พักประมาณ 20–40 นาที ขึ้นกับอุณหภูมิและความชื้นของห้อง
  • ทดสอบโดยใช้ปลายนิ้วแตะเบา ๆ บนผิวแล้วไม่ติดนิ้ว ถือว่าใช้ได้
  • ถ้าห้องชื้น อาจใช้พัดลมช่วยเป่า และเลี่ยงการพักใกล้บริเวณที่มีไอน้ำ
  • ไม่ควรพักนานจนเกินไป เพราะผิวจะหนา แข็ง และทำให้ฟุตดันยาก

การคุมไฟเตาอบสำหรับมาการอง

เตาอบแต่ละบ้านให้ผลไม่เหมือนกัน ตัวเลขบนหน้าปัดมักไม่ตรงกับอุณหภูมิจริง จึงควรใช้เทอร์โมมิเตอร์เตาช่วยเช็กเสมอ

  • พรีฮีตเตาอย่างน้อย 15–20 นาที ก่อนนำถาดเข้าอบ
  • เริ่มทดลองที่ช่วง 140–150°C ไฟบน-ล่าง ไม่เปิดพัดลมสำหรับมือใหม่
  • ถ้าแตกบ่อย ให้ลดไฟลงทีละ 10°C แล้วดูผล
  • ถ้าไม่ค่อยขึ้นฟุต ให้ลองเพิ่มไฟทีละ 5–10°C
  • จดบันทึก “เตาบ้านตัวเอง” ว่าต้องเพิ่มหรือลดจากสูตรกี่องศา จะช่วยให้อบครั้งต่อ ๆ ไปง่ายขึ้นมาก

Check-list ก่อนนำมาการองเข้าเตาอบ

  • ผิวแห้ง แตะแล้วไม่ติดนิ้ว
  • เนื้อเปลือกอยู่ในระดับ macaronage ที่ดี (ไหลเป็นริบบอน)
  • เคาะถาดแล้ว ไล่ฟองอากาศออกเรียบร้อย
  • ขนาดแต่ละชิ้นใกล้เคียงกัน เพื่อให้สุกพร้อมกัน
  • เตาอบพรีฮีตถึงอุณหภูมิ และอุณหภูมิเสถียร

อยากทำมาการองให้ผิวเรียบ ฟุตขึ้นสวย ไม่แตก ไม่แผ่?

ในคลาสคอร์สมาการองของ Kanomcake Kitchen คุณจะได้เรียนทั้งเทคนิคการตีเมอแรงก์ การทำ macaronage ที่ถูกต้อง การพักผิว และการคุมเตาอบแบบละเอียด พร้อมลงมือทำจริงทีละขั้นตอน และมีเชฟคอยดูแลใกล้ชิด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับมาการองแตก แผ่ ไม่ขึ้นฟุต

ส่วนใหญ่เกิดจากพักผิวไม่พอและไฟเตาแรงเกินไป แนะนำให้เริ่มจากการพักผิวจนแตะแล้วไม่ติดนิ้วก่อน จากนั้นลองลดอุณหภูมิเตาลงทีละ 10–20°C และจดบันทึกผลในแต่ละรอบ เพื่อหาช่วงอุณหภูมิที่เหมาะกับเตาของตัวเอง

อาการแผ่มักมาจาก macaronage มากเกินไป หรือเมอแรงก์อ่อน ทำให้เนื้อเหลวเกินและไม่มีแรงดันพอที่จะขึ้นฟุต ลองปรับให้เมอแรงก์อยู่ระดับตั้งยอดตรง และหยุด macaronage เมื่อยกพายแล้วเนื้อไหลเป็นริบบอนต่อเนื่อง 8–10 วินาที

มักเป็นผลรวมของทั้งสองอย่าง เมอแรงก์ที่อ่อนเกินไปทำให้ไม่มีแรงดัน ส่วนไฟเตาอ่อนเกินไปจะไม่ช่วยยกให้ฟุตขึ้น แนะนำให้เช็กเมอแรงก์ให้ตั้งยอดตรงก่อน แล้วค่อยทดลองเพิ่มอุณหภูมิเตาทีละ 5–10°C พร้อมใช้เทอร์โมมิเตอร์เตาช่วยเช็กอุณหภูมิจริง

ส่วนใหญ่เกิดจากอัลมอนด์ป่นหยาบ หรือไม่ได้ร่อนส่วนผสมให้ดีพอ ทำให้มีเม็ดอัลมอนด์ค้างอยู่บนผิว แนะนำให้ใช้อัลมอนด์ป่นละเอียด และร่อนอัลมอนด์กับน้ำตาลไอซิ่ง 2–3 รอบทุกครั้งก่อนผสม

ทำได้ แต่ต้องเข้าใจพฤติกรรมของเตาอบมากกว่าปกติ เพราะเตาเล็กมักร้อนเร็วและอุณหภูมิไม่เสถียร แนะนำให้ใช้เทอร์โมมิเตอร์เตาช่วย วางถาดกลางเตา และจดบันทึกอุณหภูมิจริงที่ให้ผลดีที่สุด เมื่อจับจังหวะเตาตัวเองได้แล้ว จะทำได้สม่ำเสมอขึ้นมาก