เค้กไม่สุก เค้กดิบตรงกลาง สาเหตุและวิธีแก้ไข | Kanomcake Kitchen

เค้กสุกที่ผิวหน้า แต่ตรงกลางยังดิบ แฉะ ไม่อยู่ตัว | Kanomcake Kitchen

เค้กไม่สุก ทำไม? รวมสาเหตุที่พบบ่อย + วิธีแก้ง่ายสำหรับมือใหม่

ปัญหา เค้กไม่สุก เค้กดิบตรงกลาง เป็นอีกเรื่องที่มือใหม่ทำเค้กเจอบ่อย บางครั้งหน้าเค้กดูสุกสวย แต่พอตัดออกมากลับยังเป็นแป้งดิบ หรือแฉะตรงกลาง ก้นเค้กยังไม่สุกดี บทความนี้รวบรวมสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เค้กไม่สุก พร้อมวิธีแก้แบบง่ายที่สุดสำหรับมือใหม่

1) ใช้ไฟแรงเกิน สุกแค่ผิวหน้า แต่ด้านในยังดิบ

ปัญหาคลาสสิกของเตาอบบ้านคือ ตั้งอุณหภูมิสูงเกินไป ทำให้หน้าเค้กสุกและเปลี่ยนสีเร็ว แต่ด้านในยังไม่ทันเซตตัว พอครบเวลาแล้วตัดออกมาจะพบว่าเนื้อเค้กตรงกลางยังดิบและแฉะ

  • ผิวหน้าเริ่มไหม้ แต่เนื้อในยังเหลว
  • ตรงกลางเค้กยวบเมื่อกดเบา ๆ
  • ใช้เวลาอบใกล้เคียงสูตร แต่ยังรู้สึกว่าเค้กไม่สุกดี
วิธีแก้: ลดอุณหภูมิเตาลงประมาณ 10–20 องศาจากสูตร และเพิ่มเวลาอบอีกเล็กน้อย เค้กจะสุกถึงด้านในโดยไม่ไหม้ด้านบนเร็วเกินไป

2) พิมพ์ลึกเกิน หรือเทแบตเตอร์เยอะเกินไป

ถ้าเราใช้พิมพ์สูงและเทแบตเตอร์เต็มเกือบขอบ เค้กจะใช้เวลานานกว่าความร้อนจะเดินเข้าไปถึงแกนกลาง ผลคือด้านในยังไม่สุก แม้ด้านนอกจะสุกไปแล้ว

  • เทแบตเตอร์เต็มพิมพ์มากกว่า 70%
  • พิมพ์เส้นผ่านศูนย์กลางเล็กแต่ลึกมาก
วิธีแก้: เทแบตเตอร์ประมาณ 60–70% ของความสูงพิมพ์ ถ้าเหลือแบตเตอร์มาก ให้แบ่งอบสองพิมพ์แทนการอบก้อนหนาเกินไป

3) เตาอบจริงร้อนไม่ถึงตามตัวเลข

เตาอบหลายรุ่น โดยเฉพาะเตาอบขนาดเล็กหรือหม้ออบลมร้อน อุณหภูมิจริงอาจไม่เท่ากับตัวเลขที่ตั้งไว้ ทำให้เค้กสุกช้ากว่าสูตร ระบุไว้

  • ต้องอบนานกว่าสูตรทุกครั้ง
  • ครบเวลาแล้วยังมีแบตเตอร์ติดไม้จิ้มฟัน
วิธีแก้: ใช้เทอร์โมมิเตอร์เตาช่วยเช็กอุณหภูมิจริง และอุ่นเตาอย่างน้อย 10–15 นาทีก่อนอบทุกครั้ง หากเตาเย็นกว่าสูตร ให้เพิ่มอุณหภูมิหรือเวลาอบให้เหมาะกับเตาของเรา

4) สูตรชื้นมาก ของเหลวเยอะ แต่เวลาอบไม่พอ

บางสูตรเป็นเค้กที่มีความชื้นสูง เช่น มีนมสด วิปปิ้งครีม หรือน้ำผลไม้เยอะ ทำให้เค้กต้องใช้เวลาอบนานขึ้น ถ้าใช้เวลาเท่ากับสูตรเค้กเนื้อเบาทั่วไป เค้กจะยังไม่สุกตรงกลาง

  • เค้กดูแน่นและชื้นมากเป็นพิเศษ
  • ตรงกลางเค้กเหลวเหมือนคัสตาร์ดแต่ไม่ได้ตั้งใจทำเป็นลาวาเค้ก
วิธีแก้: สำหรับสูตรชื้นมาก ควรใช้ไฟอ่อนลงเล็กน้อย และเพิ่มเวลาอบให้เนื้อเค้กเซตตัวเต็มที่

5) วัตถุดิบเย็นจัด ทำให้เนื้อเค้กเซตตัวช้า

การใช้เนย ครีมชีส ไข่ หรือนมที่เพิ่งออกจากตู้เย็น ทำให้ส่วนผสมไม่เข้ากันดี เนื้อแบตเตอร์เย็นและข้นกว่าปกติ จึงใช้เวลานานกว่าเค้กจะสุกถึงด้านใน

วิธีแก้: นำวัตถุดิบออกมาพักให้ถึงอุณหภูมิห้องก่อนผสมอย่างน้อย 15–30 นาที โดยเฉพาะเค้กเนยและชีสเค้ก

6) ผสมแป้งไม่เข้ากัน มีจุดแป้งดิบอยู่ด้านใน

บางครั้งเค้กไม่สุก ไม่ได้มาจากเตาอบ แต่เกิดจากการผสมที่ไม่ทั่วถึง ทำให้มีแป้งเป็นก้อนหรือจุดแป้งดิบอยู่ด้านใน เมื่ออบเสร็จแล้วตัดออกมาจะเห็นเป็นจุดแฉะ ๆ

  • เห็นจุดแป้งสีขาวในเนื้อเค้ก
  • พื้นเค้กบางส่วนมีเนื้อแน่นและแฉะกว่าส่วนอื่น
วิธีแก้: ร่อนแป้งทุกครั้งก่อนผสม และใช้วิธี Fold ให้แป้งเข้ากับส่วนของเหลวจนไม่เห็นเส้นแป้งเป็นลาย

7) เปิดเตาเช็กบ่อยเกิน ทำให้อบยาวแต่ก็ยังไม่สุก

การเปิดเตาบ่อย ๆ ทำให้อุณหภูมิในเตาลดลงเรื่อย ๆ แม้จะเพิ่มเวลาอบ แต่เค้กก็ยังไม่สุกเท่าที่ควร และบางครั้งอาจยุบร่วมด้วย

  • เปิดเตาเช็กทุก 5–10 นาที
  • เวลาอบยาวกว่าสูตรมาก แต่เค้กยังไม่สุกดี
วิธีแก้: เช็กสุกครั้งแรกตอนใกล้ครบเวลาอบ (ประมาณ 70–80% ของเวลาสูตร) และเปิดเตาให้น้อยที่สุด

วิธีเช็กว่าเค้ก “สุกแล้วจริง ๆ”

แทนที่จะดูจากเวลาอย่างเดียว ลองใช้วิธีต่อไปนี้ช่วยเช็กเค้กให้แม่นขึ้น

  • ใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มตรงกลางเค้ก – ถ้าไม่มีแบตเตอร์เปียกติด แสดงว่าเค้กสุกแล้ว อาจมีเศษเค้กเล็กน้อยติดออกมาได้
  • เขย่าพิมพ์เบา ๆ – ถ้าเค้กสุกแล้ว หน้าขนมจะไม่ไหวไปมาเหมือนเจลลี่
  • สังเกตขอบเค้ก – ขอบเค้กจะเริ่มหดตัวเล็กน้อยจากพิมพ์ เป็นสัญญาณว่าเค้กใกล้สุก

ถ้าเค้กไม่สุกหลังครบเวลา ทำยังไงดี?

ถ้าเช็กแล้วพบว่าเค้กยังไม่สุก แม้จะครบเวลาตามสูตรแล้ว ยังสามารถแก้ได้ดังนี้

  • เพิ่มเวลาอบทีละ 5–7 นาที แล้วเช็กซ้ำด้วยไม้จิ้มฟัน
  • ถ้าเริ่มไหม้ด้านบน ให้คลุมหน้าเค้กด้วยฟอยล์หลวม ๆ เพื่อลดการไหม้ แต่ให้ด้านในสุกต่อ
  • ปรับลดอุณหภูมิเล็กน้อย เพื่อให้ความร้อนเข้าไปถึงด้านในโดยไม่ทำให้ผิวหน้าไหม้ยิ่งขึ้น

เค้กไม่สุกแล้วต้องทิ้งไหม? ดัดแปลงเมนูได้ไหม

ถ้าเผลออบเค้กแล้วพบว่าตรงกลางยังไม่สุก แต่ส่วนอื่นสุกดี ยังสามารถดัดแปลงเป็นเมนูอื่นได้ เช่น

  • ตักส่วนที่สุกออกมาทำเป็น เค้กถ้วย ราดซอสผลไม้หรือคัสตาร์ด
  • ทำเป็น ทริเฟิล ใส่แก้วสลับชั้นกับครีมและผลไม้
  • ใช้เป็นฐานเค้กเลเยอร์แล้วปาดครีมปิด ปรับให้ดูเป็นตั้งใจ
มุมมองเชฟ: เค้กที่ไม่สุกบางส่วนยังสามารถนำไปต่อยอดเป็นเมนูอื่นได้ ถ้ารสชาติและเนื้อสัมผัสโดยรวมยังดี ไม่จำเป็นต้องทิ้งเสมอไป

อยากอบเค้กให้สุกทั่ว ฟูสวยในครั้งเดียว?

ถ้าแก้เองแล้วเค้กยังไม่สุกตามสูตร ลองมาเรียนพื้นฐานการทำเค้กและการใช้เตาอบให้ถูกต้องกับเชฟที่ Kanomcake Kitchen

  • คอร์สพื้นฐานเค้ก – สอนตั้งแต่การทำแบตเตอร์ การเลือกพิมพ์ การตั้งอุณหภูมิ และการเช็กสุกให้เค้กสุกทั่วทั้งก้อน
  • คอร์สเลือกเมนูเอง – เหมาะสำหรับคนที่มีเมนูเฉพาะที่อยากอบ เช่น ชิฟฟ่อน บัตเตอร์เค้ก หรือเค้กวันเกิด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเค้กไม่สุก

มักเกิดจากเตาอบจริงร้อนไม่ถึงตามตัวเลข สูตรจึงใช้เวลาอบนานกว่าที่ระบุไว้ หรือใช้พิมพ์ลึก เทแบตเตอร์หนาเกิน ทำให้ความร้อนเดินถึงตรงกลางช้า

ไม่ควรกินส่วนที่ยังดิบ เพราะไข่และแป้งยังไม่ผ่านการให้ความร้อนเพียงพอ แนะนำให้นำกลับเข้าเตาอบต่อจนสุกหรือดัดแปลงเป็นเมนูอื่นหลังจากอบซ้ำให้สุกแล้ว

ให้ลดอุณหภูมิเตาลง คลุมหน้าเค้กด้วยฟอยล์หลวม ๆ แล้วอบต่อจนด้านในสุก วิธีนี้ช่วยป้องกันไม่ให้หน้าไหม้เพิ่ม แต่ให้เนื้อด้านในเซตตัวได้เต็มที่

หม้ออบลมร้อนมักร้อนจัดด้านบนและความร้อนไม่สม่ำเสมอ แนะนำให้ลดอุณหภูมิจากสูตรเตาอบปกติลงประมาณ 10–20 องศา และเพิ่มเวลาอบอีกเล็กน้อย พร้อมหมุนถาดระหว่างอบถ้าจำเป็น

อยากอบเค้กให้สุกพอดี ไม่ดิบ ไม่แฉะ?

มาเรียนเทคนิคการใช้เตาอบและคุมเนื้อเค้กกับเชฟที่ Kanomcake Kitchen สอนแบบลงมือทำจริง เข้าใจง่าย แม้ไม่เคยอบเค้กมาก่อน

บทความที่เกี่ยวข้อง