เค้กสุกที่ผิวหน้า แต่ตรงกลางยังดิบ แฉะ ไม่อยู่ตัว | Kanomcake Kitchen
เค้กไม่สุก ทำไม? รวมสาเหตุที่พบบ่อย + วิธีแก้ง่ายสำหรับมือใหม่
ปัญหา เค้กไม่สุก เค้กดิบตรงกลาง เป็นอีกเรื่องที่มือใหม่ทำเค้กเจอบ่อย บางครั้งหน้าเค้กดูสุกสวย แต่พอตัดออกมากลับยังเป็นแป้งดิบ หรือแฉะตรงกลาง ก้นเค้กยังไม่สุกดี บทความนี้รวบรวมสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เค้กไม่สุก พร้อมวิธีแก้แบบง่ายที่สุดสำหรับมือใหม่
1) ใช้ไฟแรงเกิน สุกแค่ผิวหน้า แต่ด้านในยังดิบ
ปัญหาคลาสสิกของเตาอบบ้านคือ ตั้งอุณหภูมิสูงเกินไป ทำให้หน้าเค้กสุกและเปลี่ยนสีเร็ว แต่ด้านในยังไม่ทันเซตตัว พอครบเวลาแล้วตัดออกมาจะพบว่าเนื้อเค้กตรงกลางยังดิบและแฉะ
- ผิวหน้าเริ่มไหม้ แต่เนื้อในยังเหลว
- ตรงกลางเค้กยวบเมื่อกดเบา ๆ
- ใช้เวลาอบใกล้เคียงสูตร แต่ยังรู้สึกว่าเค้กไม่สุกดี
2) พิมพ์ลึกเกิน หรือเทแบตเตอร์เยอะเกินไป
ถ้าเราใช้พิมพ์สูงและเทแบตเตอร์เต็มเกือบขอบ เค้กจะใช้เวลานานกว่าความร้อนจะเดินเข้าไปถึงแกนกลาง ผลคือด้านในยังไม่สุก แม้ด้านนอกจะสุกไปแล้ว
- เทแบตเตอร์เต็มพิมพ์มากกว่า 70%
- พิมพ์เส้นผ่านศูนย์กลางเล็กแต่ลึกมาก
3) เตาอบจริงร้อนไม่ถึงตามตัวเลข
เตาอบหลายรุ่น โดยเฉพาะเตาอบขนาดเล็กหรือหม้ออบลมร้อน อุณหภูมิจริงอาจไม่เท่ากับตัวเลขที่ตั้งไว้ ทำให้เค้กสุกช้ากว่าสูตร ระบุไว้
- ต้องอบนานกว่าสูตรทุกครั้ง
- ครบเวลาแล้วยังมีแบตเตอร์ติดไม้จิ้มฟัน
4) สูตรชื้นมาก ของเหลวเยอะ แต่เวลาอบไม่พอ
บางสูตรเป็นเค้กที่มีความชื้นสูง เช่น มีนมสด วิปปิ้งครีม หรือน้ำผลไม้เยอะ ทำให้เค้กต้องใช้เวลาอบนานขึ้น ถ้าใช้เวลาเท่ากับสูตรเค้กเนื้อเบาทั่วไป เค้กจะยังไม่สุกตรงกลาง
- เค้กดูแน่นและชื้นมากเป็นพิเศษ
- ตรงกลางเค้กเหลวเหมือนคัสตาร์ดแต่ไม่ได้ตั้งใจทำเป็นลาวาเค้ก
5) วัตถุดิบเย็นจัด ทำให้เนื้อเค้กเซตตัวช้า
การใช้เนย ครีมชีส ไข่ หรือนมที่เพิ่งออกจากตู้เย็น ทำให้ส่วนผสมไม่เข้ากันดี เนื้อแบตเตอร์เย็นและข้นกว่าปกติ จึงใช้เวลานานกว่าเค้กจะสุกถึงด้านใน
6) ผสมแป้งไม่เข้ากัน มีจุดแป้งดิบอยู่ด้านใน
บางครั้งเค้กไม่สุก ไม่ได้มาจากเตาอบ แต่เกิดจากการผสมที่ไม่ทั่วถึง ทำให้มีแป้งเป็นก้อนหรือจุดแป้งดิบอยู่ด้านใน เมื่ออบเสร็จแล้วตัดออกมาจะเห็นเป็นจุดแฉะ ๆ
- เห็นจุดแป้งสีขาวในเนื้อเค้ก
- พื้นเค้กบางส่วนมีเนื้อแน่นและแฉะกว่าส่วนอื่น
7) เปิดเตาเช็กบ่อยเกิน ทำให้อบยาวแต่ก็ยังไม่สุก
การเปิดเตาบ่อย ๆ ทำให้อุณหภูมิในเตาลดลงเรื่อย ๆ แม้จะเพิ่มเวลาอบ แต่เค้กก็ยังไม่สุกเท่าที่ควร และบางครั้งอาจยุบร่วมด้วย
- เปิดเตาเช็กทุก 5–10 นาที
- เวลาอบยาวกว่าสูตรมาก แต่เค้กยังไม่สุกดี
วิธีเช็กว่าเค้ก “สุกแล้วจริง ๆ”
แทนที่จะดูจากเวลาอย่างเดียว ลองใช้วิธีต่อไปนี้ช่วยเช็กเค้กให้แม่นขึ้น
- ใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มตรงกลางเค้ก – ถ้าไม่มีแบตเตอร์เปียกติด แสดงว่าเค้กสุกแล้ว อาจมีเศษเค้กเล็กน้อยติดออกมาได้
- เขย่าพิมพ์เบา ๆ – ถ้าเค้กสุกแล้ว หน้าขนมจะไม่ไหวไปมาเหมือนเจลลี่
- สังเกตขอบเค้ก – ขอบเค้กจะเริ่มหดตัวเล็กน้อยจากพิมพ์ เป็นสัญญาณว่าเค้กใกล้สุก
ถ้าเค้กไม่สุกหลังครบเวลา ทำยังไงดี?
ถ้าเช็กแล้วพบว่าเค้กยังไม่สุก แม้จะครบเวลาตามสูตรแล้ว ยังสามารถแก้ได้ดังนี้
- เพิ่มเวลาอบทีละ 5–7 นาที แล้วเช็กซ้ำด้วยไม้จิ้มฟัน
- ถ้าเริ่มไหม้ด้านบน ให้คลุมหน้าเค้กด้วยฟอยล์หลวม ๆ เพื่อลดการไหม้ แต่ให้ด้านในสุกต่อ
- ปรับลดอุณหภูมิเล็กน้อย เพื่อให้ความร้อนเข้าไปถึงด้านในโดยไม่ทำให้ผิวหน้าไหม้ยิ่งขึ้น
เค้กไม่สุกแล้วต้องทิ้งไหม? ดัดแปลงเมนูได้ไหม
ถ้าเผลออบเค้กแล้วพบว่าตรงกลางยังไม่สุก แต่ส่วนอื่นสุกดี ยังสามารถดัดแปลงเป็นเมนูอื่นได้ เช่น
- ตักส่วนที่สุกออกมาทำเป็น เค้กถ้วย ราดซอสผลไม้หรือคัสตาร์ด
- ทำเป็น ทริเฟิล ใส่แก้วสลับชั้นกับครีมและผลไม้
- ใช้เป็นฐานเค้กเลเยอร์แล้วปาดครีมปิด ปรับให้ดูเป็นตั้งใจ
อยากอบเค้กให้สุกทั่ว ฟูสวยในครั้งเดียว?
ถ้าแก้เองแล้วเค้กยังไม่สุกตามสูตร ลองมาเรียนพื้นฐานการทำเค้กและการใช้เตาอบให้ถูกต้องกับเชฟที่ Kanomcake Kitchen
- คอร์สพื้นฐานเค้ก – สอนตั้งแต่การทำแบตเตอร์ การเลือกพิมพ์ การตั้งอุณหภูมิ และการเช็กสุกให้เค้กสุกทั่วทั้งก้อน
- คอร์สเลือกเมนูเอง – เหมาะสำหรับคนที่มีเมนูเฉพาะที่อยากอบ เช่น ชิฟฟ่อน บัตเตอร์เค้ก หรือเค้กวันเกิด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเค้กไม่สุก
มักเกิดจากเตาอบจริงร้อนไม่ถึงตามตัวเลข สูตรจึงใช้เวลาอบนานกว่าที่ระบุไว้ หรือใช้พิมพ์ลึก เทแบตเตอร์หนาเกิน ทำให้ความร้อนเดินถึงตรงกลางช้า
ไม่ควรกินส่วนที่ยังดิบ เพราะไข่และแป้งยังไม่ผ่านการให้ความร้อนเพียงพอ แนะนำให้นำกลับเข้าเตาอบต่อจนสุกหรือดัดแปลงเป็นเมนูอื่นหลังจากอบซ้ำให้สุกแล้ว
ให้ลดอุณหภูมิเตาลง คลุมหน้าเค้กด้วยฟอยล์หลวม ๆ แล้วอบต่อจนด้านในสุก วิธีนี้ช่วยป้องกันไม่ให้หน้าไหม้เพิ่ม แต่ให้เนื้อด้านในเซตตัวได้เต็มที่
หม้ออบลมร้อนมักร้อนจัดด้านบนและความร้อนไม่สม่ำเสมอ แนะนำให้ลดอุณหภูมิจากสูตรเตาอบปกติลงประมาณ 10–20 องศา และเพิ่มเวลาอบอีกเล็กน้อย พร้อมหมุนถาดระหว่างอบถ้าจำเป็น
อยากอบเค้กให้สุกพอดี ไม่ดิบ ไม่แฉะ?
มาเรียนเทคนิคการใช้เตาอบและคุมเนื้อเค้กกับเชฟที่ Kanomcake Kitchen สอนแบบลงมือทำจริง เข้าใจง่าย แม้ไม่เคยอบเค้กมาก่อน
บทความที่เกี่ยวข้อง