อุปกรณ์ทำเบเกอรี่ สำหรับเริ่มต้นหัดทำเค้ก คุกกี้ มีอะไรบ้าง

1. เครื่องผสมอาหาร (hand mixer) : 

เป็นเครื่องตีขนาดเล็กใช้มือจับขณะใช้งาน มีหลายแบบหลายราคาให้เลือกใช้
ราคา เริ่มต้น 1,000 บาท ก็สามารถทำเริ่มทำเบเกอรี่ได้แล้ว
เช่น เราตีไข่ขาวให้ขึ้นฟู ไม่ว่าจะใช้เครื่องตีไหนก็สามารถทำได้ ขอเพียงแค่ขนมที่เราตีขึ้นฟูได้ที่

เครื่องตีใหญ่ไปแต่ทำน้อย ตีขนมไม่ถึง ไม่ขึ้นฟู
เครื่องตีเล็กแต่ทำเยอะ ต้องทำหลายรอบ

การเลือกซื้อเครื่องตี ควรซื้อให้เหมาะสมกับปริมาณที่ทำ และ การใช้งานเป็นหลัก 
- เครื่องขนาดเล็ก : เหมาะกับทำเค้ก 1-2 ก้อน
เช่น Hand mixer (ตามภาพ) หรือ เครื่องตีตั้งโต๊ะ Stand mixer ขนาด 3-5ลิตร
- เครื่องตีที่มีขนาดใหญ่ขึ้น : ก็สามารถทำปริมาณได้เยอะขึ้น
เช่น เครื่องขนาด 6-10 ลิตร แต่ทำเค้กทีละ1ก้อน
หัวตีส่วนผสมไม่โดนหรือไม่เต็มที่ ขนมก็ไม่ขึ้นฟู เป็นต้น

แนะนำการเลือกซื้อ
- เริ่มต้นเราสามารถใช้เครื่องตีแบบมือถือตามภาพมาใช้ได้
- ทำเป็นประจำ หรือใช้บ่อยๆ อาจจะขยับมาใช้เครื่องทีใหญ่ขึ้น มีความทนทานมากขึ้น
เช่น เครื่องตีตั้งโต๊ะ ขนาด 5 ลิตร เพราะขนาดไม่ใหญ่เกินไป ยังสามารถใช้ทำเค้กทีละ 1-2 ก้อนได้
- ทำขายต้องดูการใช้งานและปริมาณที่ทำ ทำทีละเยอะๆ ก็ใช้เครื่องใหญ่เพิ่มขึ้น

แนะนำการเลือกซื้อเครื่องตีตั้งโต๊ะ
- ตีไม่ถึงก้นหม้อ หัวตีกับโถมีขนาดห่างกันเยอะไป
- ปรับระยะห่างหัวตีกับก้นหม้อได้
- ใช้สายพาน หรือ มอเตอร์
- เสียง เครื่องตีบางยี่ห้อเสียงดัง (เกินไป)
- มีโถตีสำรอง สำหรับสลับใช้งาน

2. ตาชั่งดิจิตอล (digital scale) :

สามารถชั่งน้ำหนักเป็นกรัมได้แม่นยำ สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนซื้อ คือ

• ตาชั่งของเราเหมาะกับใช้ทำขนมหรือไม่
• มีความแม่นยำแค่ไหน

หากตาชั่งไม่เสถียรหรือชั่งผิดเพี้ยน อาจจะทำให้
เสียทั้งเวลาเพื่อทำขนมใหม่ และต้นทุนในการทำขนมก็จะเพิ่มขึ้นด้วย

(ที่ตาชั่งจะมีรายละเอียดบอกไว้)
แนะนำ

• ชั่งน้ำหนักได้ 2-3 kg.
  พอสำหรับการชั่งตวงทำขนมทั่วไป-ทำขาย
• น้ำหนักขึ้นทีละ 1 กรัม
  ตาชั่งขึ้นทีละ 1 กรัม จะมีความละเอียดกว่า
  บางเครื่องละเอียดมาก ขึ้นทีละ 0.1 กรัม
• เลือกใช้ยี่ห้อที่มีความน่าเชื่อถือ
  ตาชั่งเพี้ยน = ต้นทุนสูงขึ้น

สังเกตุที่ตาชั่ง "Max 3kg d=1g" หมายถึง
Max 3kg : ตาชั่ง รับน้ำหนักได้สูงสุด 3 kg.
d=1g คือ : เวลาที่ชั่งจะขึ้นทีละ 1กรัม
ถ้าd=5 นำหนักที่ชั่ง จะขึ้นทีละ5กรัม
เช่น สูตรให้ชั่ง แป้งข้าวโพด 12 กรัม
เราต้องการ 12 กรัม
ตาชั่งจะขึ้นทีละ 5 กรัม
เมื่อชั่งไป 10 กรัมแล้ว จะข้ามไป 15 กรัมเลย
บางสูตรใช้ผงเจลาติน 3 กรัม
ยิ่งสูตรที่ใช้วัตถุดิบจำนวนน้อย
แสดงว่าวัตถุดิบมีผลกับสูตรมาก
หากชั่งเกินหรือขาด มาก/น้อยไป ก็อาจจะส่งผลกับขนมเมนูนั้นๆได้

3. ช้อนตวง (measuring spoon) :

เป็นอุปกรณ์พื้นฐานทำเบเกอรี่ที่ต้องมี ทุกสูตร
ขนมที่มีหน่วยชั่งตวงเป็นช้อนตวง หรือถ้วยตวง เช่น tsp., tbsp., cup
เราสามารถใช้ช้อนตวงตามที่สูตรนั้น ๆ ระบุได้
มีทั้งแบบพลาสติก ไม้ และโลหะ

วิธีการใช้ช้อนตวง หรือ ถ้วยตวง ที่ถูกต้อง คือ เราใช้ช้อนตักหรือเทน้ำให้เต็มพอดีช้อน
ไม่พูนเกิน หรือ มีลักษณะที่ใส่ไม่เต็มช้อน

4. ตะกร้อมือ :

ใช้สำหรับคนส่วนผสมที่เป็นของเหลวให้เข้ากัน
ใช้ตีวิปปิ้งครีมให้ขึ้นฟู หรือใช้ตีไข่
บางเมนูไม่ต้องใช้เครื่องตีไข่ใช้แค่ตะกร้อมือก็
สามารถทำขนมให้ออกมาได้เลย เช่น บราวนี่,
ชอคโกแลตนามะ, มั่ฟฟิ่น, ชอคโกแลตลาวา ฯลฯ

5. พายซิลิโคน (Silicone spatula) :

ในแทบทุกเมนูจะต้องใช้พายเป็นอุปกรณ์ปาด
หรือ คนส่วนผสมให้เข้ากัน การเลือกซื้อมาใช้
ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของเราว่าเราใช้ทำอะไร

พายซิลิโคน : ทนอุณหภูมิตั้งแต่ -40องศา
เซลเซียส ถึง 220 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว
ทำให้เราสามารถคนส่วนผสมทั้งเย็นและร้อนได้
อย่างปลอดภัย สามารถปาดส่วนผสมที่เป็น
ของเหลวให้สะอาดหมดจดได้ 

พายพลาสติก : ก็สามารถใช้ได้ ราคา 15-20 บาท แต่บางเมนูอาจจะปาดขนมไม่สะอาดหมด
และไม่สามารถทนความร้อนสูงได้ บางครั้งเราเคย เห็นแม่ค้าบางคนนำพายพลาสติกไป
พลิกขนมบนเตาร้อนๆ (ไม่แนะนำ)

6. ชาม/ภาชนะ ผสม :

สำหรับชั่งตวงวัตถุดิบทำเบเกอรี่ : ใช้ขนาดเล็กและขนาดกลาง (ขึ้นอยู่กับปริมาณวัตถุดิบที่ทำ)

สำหรับเป็นภาชนะผสมส่วนผสม : จะมีขนาดใหญ่ เนื่องจากต้องรวมวัตถุดิบทั้งหมดมาผสม
รวมกัน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือวัสดุที่ใช้

- หากเราเริ่มหัดทำขนมอาจจะภาชนะเป็น พลาสติก ชามกระเบื้อง แก้ว ทีมีอยู่ในบ้านแทนได้
ไม่จำเป็นต้องหาซื้อชามสแตนเลสมาใช้
- ถ้ามีแผนจะทำขนมเป็นระยะเวลานาน หรือ เปิดร้านเบเกอรี่ แนะนำให้ใช้ชาม หรือ ภาชนะที่เป็น
สแตนเลส 304 (SUS304)
ซึ่งสามารถใช้กับอาหารได้อย่างปลอดภัย ทนอุณหภูมิร้อนสูง อายุการใช้งานยาวนาน

7.เตาอบไฟฟ้า (Electric oven) :

หรือที่หลายคนเรียก เตาติ๊ง (ไม่ใช่ไมโครเวฟ) สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป
มีหลายขนาดให้เลือก เช่น 42ลิตร - 70ลิตร ราคา 4,000 - 5,500 บาท

เตาไฟฟ้ามีลักษณะการทำงาน คือ มีความร้อนทั้งจากบนและล่าง ปรับความร้อน 100-250 องศาเซลเซียสได้
ขนมส่วนใหญ่ที่อบใช้อุณหภูมิประมาณ 150-220 องศาเซลเซียส ซึ่งเพียงพอและสามารถทำ
ขนมเค้ก คุกกี้ ชีสเค้ก มาการอง และเมนูเบเกอรี่ทั่วไปได้

เตาที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ก็สามารถอบขนมได้ปริมาณเยอะขึ้น

8. ถุงมือจับของร้อน :

ใช้สำหรับจับถาดอบขนม หรือ ของร้อนในเตาอบ มีขนาดใหญ่และหนา
ข้อเสียคือเวลาใช้งานอาจจะจับไม่ค่อยถนัดมือนักแต่กันและทนความร้อนได้ดี

มีถุงมืออีกประเภท เป็นถุงมือช่าง ราคาคู่ละ 20 บาท อาจจะไม่สวย
แต่สวมใส่ถนัดมือและราคาไม่แพงหากบางไปสามารถใส่เพิ่ม 2ชั้นได้