เค้กโบราณ กลิ่นอายขนมยุค 90 ที่ยังหอมหวานไม่เปลี่ยน

เค้กโบราณ คือขนมที่หลายคนคุ้นตาตั้งแต่สมัยยังเด็ก โดยเฉพาะช่วงยุค 90 ที่เคยวางขายอยู่ตามร้านเบเกอรี่หน้าโรงเรียนหรือร้านขนมท้องถิ่น จุดเด่นของเค้กชนิดนี้อยู่ที่เนื้อเค้กแน่นหอมเนย หน้าเค้กเคลือบด้วยเจลใสสีน้ำตาลทองให้ความเงางาม และตกแต่งด้วยดอกครีมเนยขนาดเล็กสีอ่อน เป็นขนมเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และกลิ่นอายอบอุ่นของวันวาน

เค้กโบราณคืออะไร?

แม้ชื่อจะฟังดูเก่า แต่เค้กโบราณไม่ได้หมายถึงขนมโบราณในยุคเก่าหลายร้อยปี หากแต่เป็นขนมที่เคยได้รับความนิยมในช่วงทศวรรษ 2530–2540 ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งเนื้อแน่น หอมเนย และการตกแต่งที่ละเอียดอ่อน หน้าเค้กเคลือบด้วยเจลใสบาง ๆ จนดูมันวาว เมื่อสะท้อนแสงจะเห็นเป็นสีน้ำตาลทองสวยงาม เป็นเสน่ห์ที่ใครเห็นก็จดจำได้ทันที

ที่มาของชื่อ “เค้กโบราณ”

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง คนไทยเริ่มรู้จักการทำเค้กจากวัฒนธรรมตะวันตก เค้กที่อบในยุคนั้นมักเป็นเค้กเนยสดเรียบง่าย ไม่มีการแต่งหน้ามากนัก เมื่อเวลาผ่านไปสูตรเค้กพัฒนาไปตามเทรนด์ ขนมชนิดนี้จึงค่อย ๆ หายไปจากร้านเบเกอรี่ทั่วไป เหลือเพียงในร้านเก่าแก่หรือทำกันเองในครอบครัว เมื่อคนรุ่นใหม่ได้เห็นรูปลักษณ์แบบนี้อีกครั้ง จึงเรียกกันติดปากว่า “เค้กโบราณ”

ลักษณะของเค้กโบราณแบบไทย

• เนื้อเค้กแน่นแต่เนียนนุ่ม หอมกลิ่นเนยและไข่
• หน้าเค้กเคลือบเจลใสสีน้ำตาลทอง ให้ผิวดูเงางาม
• ตกแต่งด้วยดอกครีมเนยขนาดเล็ก สีอ่อนพาสเทล เช่น ชมพู เขียวอ่อน หรือครีม
• บางสูตรแต่งด้วยฝอยทอง ถั่ว หรือเชอร์รี่แดงเพื่อเพิ่มสีสัน

เสน่ห์ของเค้กโบราณ

แม้จะเป็นขนมเรียบง่าย แต่เค้กโบราณกลับเต็มไปด้วยความอบอุ่นของกลิ่นและรสชาติ กลิ่นเนยหอมละมุน เนื้อเค้กแน่นนุ่มพอดี และดอกครีมบีบด้วยมืออย่างประณีตทุกชิ้น ล้วนสะท้อนความตั้งใจของผู้ทำ เป็นขนมที่ไม่ต้องหวือหวาแต่มีเสน่ห์ชวนให้คิดถึงวันเก่า ๆ ทุกครั้งที่ได้ลิ้มลอง

เค้กโบราณยอดนิยม

• เค้กหน้าเจลใสสีน้ำตาลทอง
• คัพเค้กโบราณแต่งดอกครีม
• เค้กฝอยทองแบบดั้งเดิม
• เค้กเชอร์รี่ถั่วรวม

ทำไมเค้กโบราณถึงกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง

เพราะเค้กโบราณให้ความรู้สึกโฮมเมดและคิดถึงอดีต เป็นขนมที่ทำไม่ยาก ใช้วัตถุดิบพื้นฐานแต่ให้รสชาติหอมหวานกลมกล่อม ร้านเบเกอรี่ยุคใหม่หลายแห่งจึงนำสูตรนี้กลับมาทำอีกครั้ง พร้อมตกแต่งให้ร่วมสมัยมากขึ้น แต่ยังคงรักษารสชาติแบบเดิมไว้ครบถ้วน